
man united
legends
เมื่อคำว่า “ตำนาน” มีความหมายมากกว่าแค่ความเก่า แต่จะมาพร้อมภาพนักเตะชูถ้วยใหญ่ในค่ำคืนแห่งเกียรติยศและน่าจดจำ ที่น่าเสียดายคือ มี ตำนานแมนยู หลายคน บุญมีแต่กรรมบัง ที่ไม่เคยได้สัมผัสแชมป์บิ๊กเอียร์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลยแม้แต่สักครั้ง แม้จะประสบความสำเร็จในด้านอื่น ๆ รายการอื่นกับทีม แต่ความอาภัพนี้ยังคงกลายเป็น “แผลเป็น” ที่ไม่มีวันจางในเส้นทางนักฟุตบอลของพวกเขา
บางคนพลาดเพราะอยู่กับทีมสั้นไป บางคนเพราะอยู่ผิดยุค ผิดช่วงเวลา บางคนอาการบาดเจ็บมารบกวน ขณะที่คนอื่น ๆ ต้องออกจากทีมก่อนช่วงเรืองรองของทีมกำลังมา และรายชื่อเหล่านี้ที่เราจะเล่าให้ฟัง คือนักเตะฝีเท้าเยี่ยมของทีมผีที่แฟนบอลจำชื่อได้ในทันที แต่น่าเสียดายว่าไม่เคยชูถ้วยยักษ์สูงสุดแห่งยุโรปเลย จะมีใครบ้างตามไปดูกัน
ตำนานแมนยู ที่ไม่เคยได้แชมป์ UCL คือใคร?
ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถ้วย UCL สูงสุดแห่งโพเดี้ยมของความเป็นนักฟุตบอล ถ้วยหูใหญ่ที่ไม่ว่าใครก็ใฝ่ฝันเพราะมากกว่าแค่การันตีฝีเท้าและทีม แต่สื่อให้โลกได้รู้ว่า คุณเคยยืนอยู่บนยอดของทวีปเหนือใคร
ที่น่าสนใจคือ สำหรับตำนานแมนยูบางคน ความฝันอันเลิศเลอนี้ไม่เคยมีอยู่จริงกับพวกเขา ทั้ง 3 ครั้งที่ได้แชมป์ของทีม 2 ครั้งล่าสุดยุคเรืองรองพวกเขาไม่ได้ชูถ้วยนี้ ทั้ง แมนยู 1999 , 2008 และนั่นทำให้กลายเป็น “ตำนานที่ขาดหาย” ขาดไปซึ่งเครื่องยืนยันความสำเร็จตัวโต ๆ นั่นคือ การเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
เสน่ห์ถ้วยบิ๊กเอียร์ที่นักเตะทุกคนโหยหา
การได้ชูถ้วยบิ๊กเอียร์คือการได้รับการยอมรับจากทั้งโลก มันคือเกียรติยศที่บอกว่าคุณคือส่วนหนึ่งของทีมที่ดีที่สุดในยุคนั้น และในห้องแต่งตัว ถ้วยนี้ยังเป็นเหมือนตราประทับที่ปิดฉากบทพิสูจน์ของนักเตะว่าพวกเขาได้ไปถึงจุดสูงสุดของเส้นทางอาชีพ
ถ้วยบิ๊กเอียร์ หรือ ยูโรเปี้ยน คัพ เดิม ถือกำเนิดขึ้นในปี 1955 เพื่อหาทีมสโมสรที่ดีที่สุดในทวีปยุโรป ก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 1992 และปรับระบบการแข่งขันให้ดูสนุกมากขึ้น โดยปัจจุบันรายการนี้มีทีมจากลีกต่าง ๆ ทั่วยุโรปเข้าร่วม โดยโควตาขึ้นอยู่กับแรงกิ้งของสมาคมฟุตบอลประเทศนั้น ๆ

จากเริ่มต้นรอบแบ่งกลุ่มมีทั้งหมด 32 ทีม จาก 4 โถ ถูกจับสลากแบ่งเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แข่งขันแบบเหย้า–เยือน เพื่อหาสองทีมที่ดีที่สุดในแต่ละกลุ่มเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ จนปัจจุบันล่าสุดฤดูกาล 2024/25 เป็นปีแรกของรูปแบบใหม่ให้สนุกยิ่งขึ้นผ่านระบบ ลีกเฟส (League Phase) เป็นระบบแบบสวิส มี 36 ทีม อยู่ในตารางเดียว จับสลากจาก 4 โถ แล้วแต่ละทีมจะลงเล่น 8 นัด กับคู่แข่งจากโถต่าง ๆ ความแกร่งต่างระดับ (เหย้า 4, เยือน 4) จากนั้นทีมที่ได้คะแนนสูงสุด 1–8 จะเข้ารอบ 16 ทีมอัตโนมัติ แล้วทีมอันดับ 9–24 ต้องเล่นเพลย์ออฟเหย้า–เยือนเพื่อคัดอีก 8 ทีม อันดับ 25–36 ตกรอบทันที(ไม่ตกไปยูโรปาลีกอีกต่อไป)
ความยิ่งใหญ่ของถ้วยนี้ยืนยันได้จากสถิติแชมป์มากที่สุด โดย เรอัล มาดริด ครองสถิติสูงสุด 14 สมัย ตามด้วย เอซี มิลาน 7 สมัย, บาเยิร์น มิวนิค และ ลิเวอร์พูล ทีมละ 6 สมัย, และบาร์เซโลนากับอาแจ็กซ์ที่ 5 สมัย นอกจากเกียรติยศ คุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือคุณค่าทางการตลาดยังมหาศาล เช่นเดียวกับการสร้างรายได้ให้สโมสรที่ลงแข่งรายการนี้ ไม่แปลกว่าทำไมทุกทีมในยุโรปจึงปรารถนาจะเข้ามาแข่งรายการนี้ให้ได้
ทำไมนักเตะฝีเท้าระดับโลกเหล่านี้ถึงพลาดถ้วยยุโรป?
บางคนพลาดเพราะอยู่ทีมผิดเวลา บางคนเจ็บในช่วงสำคัญของฤดูกาล หรือบางคนต้องออกจากทีมก่อนทั้งที่ความสำเร็จของทีมกำลังจะมาถึง จะบอกว่าบุญมีแต่กรรมบังก็ไม่ต่าง ชะตากรรมที่โหดร้ายในโลกแห่งฟุตบอลที่ใครก็ยากจะคาดเดา
ความจริงเบื้องหลังการพลาดถ้วย
- ย้ายทีมก่อนยุคทอง – นักเตะบางคนออกจากแมนยูไม่กี่ปี ก่อนทีมจะคว้า UCL
- บาดเจ็บช่วงชี้ชะตา – มีกรณีที่พลาดการลงเล่นนัดสำคัญเพราะอาการบาดเจ็บยาว
- ติดโทษแบน – โชคร้ายที่โดนใบเหลืองสะสมจนหมดสิทธิ์ลงนัดชิง
แม้เหตุผลจะต่างกัน แต่ทุกกรณีสะท้อนว่าฟุตบอลคือเกมแห่งจังหวะเวลาจริง ๆ ฝีเท้าดีบางทีดวงต้องมาด้วย เพราะบางครั้งแม้ฝีเท้าจะยอดเยี่ยมเพียงใด หากพลาดช่วงเวลาสำคัญของทีมไปก็อาจให้เขาหลุดไปวงโคจรของคำว่าตำนานของทีมได้เลย

รายชื่อนักเตะ แมนยู ยุค 90 ที่ขาดเพียงแชมป์ UCL
ความเกรียงไกลหาใครเทียบและไม่ย้อนไปไม่นานเกินของผีแดง คือยุค 90 ที่แมนยูเต็มไปด้วยนักเตะระดับโลก สตาร์ดังจากหลายแขนง ทั้งเยาวชนที่ปั้นมากับมือ ผสมกับนักเตะที่ฝีเท้าอหังกาล กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวสู่รสชาติความสำเร็จอย่างที่เรา ๆ ได้เห็นกัน ทว่า.. แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ได้สัมผัสบัลลังก์ยุโรป UCL มีใครบ้างเราจะพาไปดู

4 ตำนานยุค 90 ที่พลาดถ้วย UCL
- เอริก คันโตนา (Eric Cantona) – ราชาไร้มงกุฎแห่งยุโรป
คันโตนา คือจิตวิญญาณของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงก่อรากฐานยุคเฟอร์กี้ ผู้ปลุกความเชื่อให้ทีมกลับมาทวงความยิ่งใหญ่หลังยุค 60s แต่แม้จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกหลายสมัย และได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชา” ของโอลด์ แทรฟฟอร์ด ทว่าก๊องโต้กลับตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 1997 ขณะที่อายุเพียง 30 ปี – แค่ 2 ปีก่อนที่ยูไนเต็ดจะคว้าถ้วย UCL ฤดูกาล 1998/99 ด้วยขุมกำลังคลื่นลูกใหม่อย่าง กิ๊กส์, สโคลส์, โคล และยอร์ค ซึ่งล้วนเป็นผลพวงจากยุคที่คันโตนาวางรากฐานไว้ทั้งสิ้น - สตีฟ บรูซ (Steve Bruce) – กัปตันทีมผู้ตกขบวนรถไฟสายแชมป์ยุโรป
บรูซถือเป็นกัปตันคนสำคัญในยุคเริ่มต้นของเฟอร์กูสัน พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 1992/93 และ 1993/94 แบบยอดเยี่ยม แต่ดันย้ายออกไปในปี 1996 เพื่อไปรับงานโค้ชและเล่นให้เบอร์มิงแฮม ก่อนที่ทีมจะคว้าถ้วยใหญ่ของยุโรปเพียง 3 ปีถัดมา เขาเป็นเหมือนทหารกล้าที่ยืนหยัดตอนสงคราม แต่ไม่ได้ยืนอยู่วันชัยชนะ - ไบรอัน ร็อบสัน (Bryan Robson) – ตำนานที่โดนระบบแบนปิดประตูยุโรป
“Captain Marvel” แห่งถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด คือขวัญใจแฟนบอลในยุค 80s ต่อเนื่องถึงต้น 90s แต่ร็อบสันต้องเผชิญกับยุคมืดของฟุตบอลอังกฤษ ที่ถูกแบนจากการแข่งขันในยุโรปถึง 5 ปี หลังโศกนาฏกรรมเฮย์เซล นั่นทำให้เขาไม่มีโอกาสสัมผัสเวทียุโรปในช่วงพีกของอาชีพ ทั้งที่ศักยภาพและความเป็นผู้นำของเขาไม่แพ้ใครในยุคนั้น - ลี ชาร์ป (Lee Sharpe) – เจ้าลมกรดที่วิ่งแซงโชคชะตาไม่ได้
ลี ชาร์ป เป็นหนึ่งในนักเตะที่เคยถูกมองว่าจะเป็น “กิ๊กส์ ก่อนกิ๊กส์” ด้วยความเร็ว ความมั่นใจ และทักษะการลากเลื้อยที่สะกดแฟนบอล แต่ชีวิตค้าแข้งของเขาถูกรุมเร้าด้วยอาการบาดเจ็บ และปัญหานอกสนาม ทำให้ต้องย้ายทีมออกไปก่อนที่ยุคทองของยูไนเต็ดจะเบ่งบานเต็มที่ในช่วงปลาย 90s
พวกเขาเหล่านี้คือหลักฐานว่า บางครั้งคำว่า “ตำนาน” อาจไม่จำเป็นต้องมีครบทุกถ้วยก็ได้ แต่ความทรงจำและฝีเท้าที่ฝากไว้ยังคงอยู่ในใจแฟนบอลเสมอ
และถ้าคิดว่าการพลาด UCL คือเรื่องน่าเสียดายที่สุด ลองดูนักเตะที่อาภัพกว่านั้น ไม่เพียงพลาดถ้วยยุโรป แต่ไม่เคยได้แชมป์ใด ๆ เลยกับแมนยู ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังคงเป็นที่จดจำ เพราะฝีเท้าและบุคลิกที่ฝากไว้ให้แฟนบอลพูดถึง
นักเตะแมนยูยุคอาภัพ ฝีเท้าดีแต่ไร้แชมป์
ไม่ได้ชูถ้วยแห่งเกียรติอย่าง UCL ไม่พอ หนักกว่านั้นคือมีบางคนไม่เคยได้แชมป์กับผีแดงเลยในยุครุ่งเรื่อง แต่ถึงแม้นักเตะผีบางคนจะไม่มีถ้วยรางวัลติดมือเลยสักใบ มองในอีกมุมพวกเขากลับได้มาเป็นภาพจำของแฟนบอลด้วยฝีเท้าเป็นเครื่องยืนยัน สไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ ประโยชน์ต่อทีม หรือกระทั่งบุคลิกที่สะกดสายตาแฟนบอล จนชื่อถูกกล่าวถึงทุกครั้งที่พูดถึงสโมสร มีใครบ้าง.. ตามไปดูเลย

- จอร์แดน สเปนส์ – ดาวรุ่งที่ถูกคาดว่าจะไปได้ไกล แต่เจ็บหนักจนแทบไม่ได้ลง
- ราล์ฟ มิลเลน – กองหลังที่เล่นได้มั่นใจแต่ดันย้ายมาในยุคที่ทีมยังไม่แข็งแกร่งพอ
- แอชลีย์ กรินเดลล์ – ตัวรุกเทคนิคดีแต่ไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้ในยุคที่คู่แข่งภายในทีมรุนแรงมาก
ตำนานชุดปูทางสู่ความสำเร็จปัจจุบัน
หลายคนไม่รู้ว่า นักเตะบางคนที่พลาด UCL มีส่วนสำคัญในการปูรากฐานให้ทีมประสบความสำเร็จในอนาคต พวกเขาเป็นเหมือนกองทัพแนวหน้า ที่แม้ไม่ได้อยู่ในภาพวันชูถ้วย แต่ทุกหยดเหงื่อในยุคก่อนหน้านั้นคือเหตุผลที่ทำให้ความสำเร็จเกิดขึ้น อย่างที่เห็นว่าแมนยูไม่เคยมีปัญหาด้านการเงินเลย ก็สร้างตัวสร้างทีมได้จากช่วงยุคนั้นแหละ
เกร็ดลับหลังกล้อง
สตีฟ บรูซ เคยเล่าว่าเขากับเพื่อนร่วมทีมในยุค 90 มีการประชุมลับนอกสนามเพื่อหารือการยกระดับเกมรับ แม้ไม่มีโค้ชอยู่ด้วยคอยสั่ง การสื่อสารและแผนการเหล่านี้ถูกส่งต่อให้กับนักเตะรุ่นต่อมา และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ทีมแข็งแกร่งพอจะคว้า UCL ในปี 1999 มาได้
รายชื่อ ตำนานแมนยู ที่ไม่เคยได้แชมป์ UCL และแม้กระทั่ง นักเตะแมนยูไม่ได้แชมป์ UCL บางคนที่ไม่มีถ้วยใด ๆ เลย แต่อยู่ในความทรงจำแฟนบอล เป็นเครื่องย้ำว่า ฟุตบอลไม่ได้ตัดสินความยิ่งใหญ่แค่ถ้วยรางวัล บางครั้งสิ่งที่แฟนบอลจดจำคือฝีเท้า หัวใจนักสู้ และบทบาทที่พวกเขามีต่อทีม แล้วคุณล่ะ คิดว่าความยิ่งใหญ่ต้องมีถ้วยรางวัลการันตีหรือไม่?
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.