ตำนานแมนยูยุค 70 ใครคือฮีโร่ตัวจริง?

ตำนานแมนยูยุค 70

man united

Team of the 70’s

ห้วงเวลาที่วงการฟุตบอล ไม่ว่าช่วงไหนก็ยังคงเป็นกีฬาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ชื่อของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือหนึ่งในสโมสรที่ถูกจารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ แต่ก่อนที่พวกเขาจะกลายมาเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ ปีศาจแดงเคยต้องเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความยากลำบากมาไม่น้อย โดยเฉพาะ ตำนานแมนยูยุค 70 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สโมสรกำลังหาทางกลับมาสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง

บทความนี้ขออาสาพาคุณย้อนรอยไปกับทีมช่วงเวลายุค 70 ที่ไม่เคยถูกเล่าขานในหน้าประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการ แต่มีส่วนสำคัญในการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับสโมสรช่วงยุค 90-2000’s นี่คือเรื่องราวของเหล่านักสู้ นักเตะแมนยูยุคเก่า อีกมากมายที่รอการเปิดเผย ซึ่งถ้าคุณเป็นแฟนผีต้องรู้หน่อย ตามไปดูเลย

ตำนานแมนยูยุค 70

แม้ชื่อเสียงของตำนานอย่างบ็อบบี้ ชาร์ลตัน หรือจอร์จ เบสต์ จะถูกจารึกไว้ชัดเจน แต่ในยุค 70 ยังมีนักเตะอีกหลายคนที่มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างรากฐานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียงแต่พวกเขาไม่ได้ถูกพูดถึงมากนัก อาจเพราะถูกกลบด้วยแสงของซูเปอร์สตาร์หรือเพราะทีมยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน อย่างไรก็ตาม นักเตะเหล่านี้คือ “อัญมณีที่ถูกลืม” ที่ช่วยผลักดันสโมสรให้ยืนหยัดสู่วันรุ่งเรืองกลับมาอีกครั้ง

ช่วงทศวรรษ 70 แมนยูไนเต็ดอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่าน หลังจากยุคทองของชาร์ลตันและเบสต์สิ้นสุดลง ทีมต้องเผชิญทั้งปัญหาผลงานฟอร์มการเล่นตกต่ำและขาดเสถียรภาพ นักเตะอย่าง จิมมี่ ฮูสตัน (Jimmy Houston) และ เดวิด ฮิลตัน (David Hilton) ไม่ใช่ชื่อที่ถูกจดจำเหมือนตำนานรุ่นใหญ่ แต่พวกเขาคือแข้งที่คอยประคับประคองทีมในวันที่ขาดซูเปอร์สตาร์ มุ่งมั่นลงเล่นด้วยหัวใจมากกว่าชื่อเสียงที่มี แม้ไม่ได้มีประตูสวย ๆ หรือสถิติโดดเด่นจนสปอร์ตไลท์ต้องจับ แต่สิ่งที่พวกเขามอบให้คือ ความทุ่มเทในการรักษาโครงสร้างของทีมไม่ให้พังลง

พวกเขาอาจไม่ถูกพูดถึงนักในสื่อหน้าประวัติศาสตร์ เพราะแฟนบอลมักเลือกจดจำเพียงช่วงเวลาความสำเร็จของทีม แต่แท้จริง พวกเขาคือฟันเฟืองแมนยูให้ได้ยืนหยัดในลีกสูงสุด จนสร้างแรงบันดาลใจให้นักเตะในยุคถัด ๆ ไป หากไม่มีการต่อสู้ของคนเหล่านี้ สโมสรอาจไม่สามารถรักษาตัวตนไว้ได้ในยุคที่ฟุตบอลอังกฤษกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด

ตำนานแมนยูยุค 70

ยุค 70 ในวันที่แมนยูไม่มีจอร์จ เบสต์ หรือบ็อบบี้ ชาร์ลตันเป็นตัวชูให้ทีม สโมสรยังคงเดินหน้าได้ด้วยแรงของนักเตะพื้นบ้านหลายรายที่อาจไม่เคยถูกยกขึ้นพาดหัวข่าว เช่น สจ๊วร์ต ฮิวสตัน ฟูลแบ็กชาวสกอตที่เล่นอย่างแข็งแกร่งและซื่อสัตย์กับทีมยาวนานเกือบ 10 ปี เขาอาจไม่ใช่ผู้เล่นที่มีเทคนิคหวือหวา แต่ความมั่นคงในเกมรับทำให้แมนยูยังคงรักษาสถานะทีมระดับสูงได้ในวันที่ขาดซูเปอร์สตาร์

อีกหนึ่งชื่อคือ แซมมี่ แมคอิลรอย มิดฟิลด์ไอร์แลนด์เหนือที่ถูกยกให้เป็น “ลูกศิษย์คนสุดท้ายของแมตต์ บัสบี้” เขาเข้ามาเติมพลังให้ทีมในช่วงเวลาที่สโมสรต้องการความหวังใหม่ แม้ไม่ได้ถูกกล่าวถึงบ่อยเหมือนนักเตะชื่อดัง แต่แมคอิลรอยคือสัญลักษณ์ของความขยัน ความทุ่มเท และความภาคภูมิใจในเสื้อปีศาจแดง ซึ่งช่วยเชื่อมช่วงเวลายากลำบากของทีมไปสู่ยุครุ่งเรืองในทศวรรษถัดมา

นอกจากนี้ยังมีทั้ง อเล็กซ์ สเต็ปนีย์ (Alex Stepney) นายประตูที่ยืนหยัดเป็นกำแพงด่านสุดท้ายยาวนานเกือบทั้งทศวรรษ, กอร์ดอน ฮิลล์ (Gordon Hill) ปีกซ้ายที่สร้างสีสันและเพิ่มความอันตรายในเกมรุก, และ ลู แม็คคารี (Lou Macari) กองกลางชาวสกอตที่ทุ่มเทจนกลายเป็นแกนหลักของทีมตลอดหลายฤดูกาล นักเตะเหล่านี้อาจไม่ใช่ “ตำนานในหน้าหนังสือพิมพ์” แต่พวกเขาคือ ตำนานแมนยูยุค 70 ที่ซื่อสัตย์และเป็นฟันเฟืองสำคัญในวันที่ทีมยังไม่พบแสงสว่างแห่งความรุ่งเรือง

ตำนานแมนยูยุค 70

หลังจากคว้า ยูโรเปี้ยนคัพ 1968 ที่กลายเป็นจุดสูงสุดของสโมสรในยุคของแมตต์ บัสบี้ หลายคนคาดหวังว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ต่อเนื่อง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม ยุค 70 คือทศวรรษแห่งความผันผวนและเต็มไปด้วยรอยแผล สโมสรเผชิญทั้งการขาดเสถียรภาพ การโรยราของนักเตะยุคทอง และการบริหารที่ไม่มั่นคง ทุกปัจจัยรวมกันทำให้ทีมที่เคยเป็นยอดแชมป์ยุโรป เปลี่ยนเป็นล้มลุกคลุกคลานจนถึงขั้นตกชั้นเมื่อปี 1974

หลังจากแมตต์ บัสบี้ ตัดสินใจวางมือในปี 1969 ก็เหมือนปีศาจแดงโดนถอด “เสาหลัก” ออกไปทันที สโมสรเข้าสู่ภาวะไร้ทิศทาง เปลี่ยนกุนซือรัว ๆ แต่ไม่มีใครมีบารมีพอจะกอบกู้สถานการณ์ได้ นักเตะยุคทองอย่างชาร์ลตันเริ่มโรยรา ส่วนจอร์จ เบสต์ที่ควรเป็นซูเปอร์สตาร์นำทีมกลับกลายเป็นปัญหานอกสนามมากกว่าในสนาม สุรากับปาร์ตี้ทำให้เขาเงียบหายไปทีละนิด เหมือนเพชรที่ถูกขัดจนหม่น ทีมจึงไร้ “เดอะแบก” ที่ไว้ใจได้ในเวลาที่ต้องการ

ตำนานแมนยูยุค 70

และเมื่อเสาหลักหาย ดาวรุ่งไม่ขึ้น ระบบทีมเป๋ ๆ แมนยูก็เจอกับฝันร้ายที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น ปี 1974 ปีศาจแดงตกชั้นลงดิวิชัน 2 มันคือแผลเป็นที่ตราตรึงแฟนบอล แม้จะใช้เวลาแค่ปีเดียวก็เลื่อนชั้นกลับมา แต่ชื่อเสียงของแมนยูในยุค 70 ถูกจดจำว่าเป็นยุคแห่งความร่วงโรยอย่างแท้จริง จากทีมที่เคยคว้าแชมป์ยุโรปกลับต้องกลายเป็นทีมที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดเพื่อลีกสูงสุดของประเทศ

ตำนานแมนยูยุค 70