
Wayne
Rooney
เมื่อพูดถึง เวย์น รูนี่ย์ ภาพแรกที่แฟนบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนึกถึงคงหนีไม่พ้นประตูที่ทำให้ทั้งสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดระเบิดเสียงโห่ร้อง เขามีมากกว่าความดุดันในการยิงประตู แต่มีสัญชาตญาณนักล่าและจังหวะตัดสินใจในเสี้ยววินาทีเพื่อโอกาสของทีม หลายประตูถูกจารึกว่าเป็น ประตูตำนานแมนยู ทั้งจากความสวยงามและความสำคัญต่อแมตช์ และแม้เวลาจะผ่านไป ภาพเหล่านั้นก็ยังติดตาแฟนบอลเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ที่สำคัญไปกว่านั้น ในบางจังหวะยังมีเกร็ดลับและเรื่องหลังกล้องที่แฟนทั่วไปแทบไม่เคยรู้ ทั้งหมดจะเป็นยังไง เราจะเล่าให้ฟัง
ประตูไหนของ เวย์น รูนี่ย์ ที่ถูกยกให้เป็นตำนานแมนยูตลอดกาล?
ไม่มีแฟนบอลแมนยูคนไหนลืมประตูของเด็กระเบิดที่โอเวอร์เฮดคิกใส่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในปี 2011 ได้ จังหวะนั้นหาใช่แค่การยิงที่สวยงามจนทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็น ตำนานแมนยู แต่เป็นประตูตัดสินเกมดาร์บี้แมตช์ในช่วงที่ทั้งสองทีมแย่งชิงความยิ่งใหญ่แห่งหมุดหมายเมืองแมนเชสเตอร์กันอย่างดุเดือด และเขาทำมันได้!!
รูนี่ย์ไม่เพียงใช้สัญชาตญาณนักล่าอย่างแท้จริง แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและความกล้าในช่วงเวลาที่มีความกดดันสูงสุด ประตูนี้จึงกลายเป็นภาพจำที่อยู่ในใจแฟนบอลทั่วโลกและถูกนำไปพูดถึงในฐานะหนึ่งในลูกยิงที่ดีที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก

การเตรียมตัวก่อนศึกดาร์บี้ที่ไม่มีใครรู้
ก่อนแมตช์นี้ รูนี่ย์ซ้อมท่ายิงโอเวอร์เฮดคิกในสนามซ้อมแคร์ริงตันซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลาสองวันเต็ม เพื่อนร่วมทีมบางคนหัวเราะคิดว่าเป็นแค่การเล่นสนุก แต่เจ้าตัวตั้งใจใช้มันหากโอกาสเหมาะมาถึง ซึ่งเมื่อบอลของนานี่ลอยมาในมุมพอดี เขาก็ไม่ลังเลที่จะเสี่ยง และทำให้โลกได้เห็นหนึ่งในประตูที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก
แม้ประตูนี้จะถูกยกให้เป็นที่สุด แต่เหตุผลที่มันกลายเป็น “ประตูสวย” ในตำนานไม่ได้มีแค่รูปแบบการยิง ความสำคัญของมันต่อเกมและความรู้สึกแฟนบอลในสนามคือสิ่งที่ยกให้มันขึ้นหิ้ง
ทุกประตูรวมทักษะและจังหวะอย่างลงตัว
เบื้องหลังความงามของลูกยิงนี้ไม่ได้มีแค่การตีลังกายิงอย่างแม่นยำ แต่ยังรวมถึงความสำคัญของสถานการณ์ รูนี่ย์ยิงประตูนี้ในช่วงท้ายเกม ซึ่งไม่เพียงตัดสินผลการแข่งขัน แต่ยังย้ำสถานะความเป็นเบอร์หนึ่งของแมนยูในเมืองแมนเชสเตอร์ ท่ามกลางเสียงกดดันจากแฟนซิตี้ที่หวังเห็นทีมพลิกสถานการณ์ การตัดสินใจในเสี้ยววินาทีของเขาทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปทันที และกลายเป็นไฮไลต์ที่ถูกเปิดซ้ำจนถึงทุกวันนี้
เสี้ยววินาทีที่รูนี่ย์เปลี่ยนแผนกลางอากาศ
- เดิมทีรูนี่ย์ตั้งใจโหม่ง แต่เมื่อเห็นบอลลอยแรงเกิน เขาเลือกปรับท่ากลางอากาศเป็นโอเวอร์เฮดคิก
- การตีลังกายิงในจังหวะนั้นไม่เพียงเสี่ยงต่อการพลาด แต่หากผิดจังหวะอาจเจ็บตัวหนัก
- จังหวะสัมผัสบอลเป๊ะในระดับที่แม้กองหน้าชั้นนำยังทำได้ไม่บ่อย และนี่คือเหตุผลที่แฟนบอลจำได้ขึ้นใจ
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เพียงประตูเดียวที่แฟนบอลจดจำได้ เพราะตลอดการค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รูนี่ย์ลงสนามไป 559 นัด ยิง 253 ประตู กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร เขาทำประตูได้ในทุกรายการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ, ลีกคัพ, แชมเปียนส์ลีก และเวิลด์คลับคัพ สถิติเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าเขามีมากกว่าแค่การซัดสกอร์สวย ๆ แต่ยังมี “ลูกยิงสำคัญ” ณ วินาทีเปลี่ยนโลก เปลี่ยนผลการแข่งขันมานับไม่ถ้วน โดยเริ่มต้นอย่างน่าจดจำ กับประตูแรกในสีเสื้อยูไนเต็ดของรูนี่ย์คือ “แฮตทริก” ในเกมแชมเปียนส์ลีกกับเฟเนร์บาห์เช เมื่อปี 2004 จนถูกยกให้เป็นการเดบิวต์แบบที่โลกฟุตบอลลืมไม่ลงจริง ๆ

ช็อตทำประตูรูนี่ย์ที่แฟนผีไม่มีวันลืม
แม้โอเวอร์เฮดคิกจะถูกยกเป็นไฮไลต์สูงสุด แต่เส้นทางการยิงประตูของรูนี่ย์กับแมนยูเต็มไปด้วยจังหวะที่ตรึงตาแฟนบอลทั่วโลก เขายิงประตูสำคัญในเกมพรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ หรือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
บางลูกมาพร้อมความสวยงามทางเทคนิค บางลูกเป็นการยิงในเกมที่มีแรงกดดันมหาศาล ทุกจังหวะสะท้อนทั้งฝีเท้า ความมั่นใจ และความกล้าของเขาในฐานะกองหน้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์สโมสร

ประตูจากครึ่งสนามเกิดเพราะคำท้าทาย
หนึ่งในจังหวะที่ถูกพูดถึงมากคือประตูยิงครึ่งสนามใส่เวสต์แฮมในปี 2014 เรื่องเบื้องหลังคือ เพื่อนร่วมทีมแซวว่าเขาไม่มีวันกล้ายิงจากระยะไกลขนาดนั้น รูนี่ย์เก็บคำพูดนั้นไว้ในใจ และเมื่อผู้รักษาประตูออกมาตัดบอลนอกกรอบ เขาก็จัดการซัดจากเกือบครึ่งสนาม บอลลอยข้ามหัวเข้าประตูอย่างแม่นยำ
ประตูพลิกเกมยุโรปที่ถูกลืม
- ดับเบิลใส่เฟเนร์บาห์เช่ – UCL 2004/05
เดบิวต์ในแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยแฮตทริกสุดโหด ช่วยแมนยูถล่ม 6-2 และประกาศศักดาในยุโรปตั้งแต่นัดแรก - ปั่นโค้ง ๆ ใส่มิลาน – UCL 2006/07
เกมรอบรองฯ เลกแรกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด รูนี่ย์ซัดโค้งนาทีท้าย ช่วยให้ทีมแซงชนะ 3-2 ก่อนจะพ่ายในเลกสอง - ซัดบาร์ซ่าในรอบชิง – UCL 2010/11
จังหวะทำชิ่งกับไรอัน กิ๊กส์แล้วปั่นเสียบมุม เป็นหนึ่งในไม่กี่ประตูที่บาร์เซโลนาชุดเป๊ปเสียในเกมใหญ่ - ลูกยิงไกลใส่ เรนเจอร์ส – UCL 2010/11 รอบแบ่งกลุ่ม
รูนี่ย์คืนฟอร์มหลังปัญหานอกสนามด้วยจุดโทษเยือกเย็นที่พาทีมเข้ารอบน็อกเอาต์ - โหม่งสำคัญใส่เชลซี – UCL 2010/11 รอบ 8 ทีม
เกมเลกสองที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด รูนี่ย์โหม่งปิดกล่องพาทีมผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกอย่างมั่นใจ
เด่นทั้งกับสโมสร แน่นอนว่าอีกหนึ่งตำนานด้านทีมชาติอังกฤษ เขาก็ฝากผลงานไว้ชัดเจน ลงสนามไปทั้งสิ้น 120 นัด ยิงได้ 53 ประตู ครองสถิติดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติอังกฤษอยู่นานหลายปี ก่อนจะถูก แฮร์รี่ เคน แซงในภายหลัง ตลอดช่วงปี 2003–2018 มีส่วนร่วมในทัวร์นาเมนต์ใหญ่แทบทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็น ยูโร 2004, 2012, 2016 และ ฟุตบอลโลก 2006, 2010, 2014 ที่น่าสนใจในบรรดาสกอร์มากมายนี้คือ ประตูแรกในนามทีมชาติของเขานั้นมาในศึกยูโร 2004 และทำให้รูนี่ย์กลายเป็นนักเตะอังกฤษที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูในทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ได้สำเร็จในวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น จรดแขวนสตั๊ดเลิกเล่นเมื่ออายุ 35 จากตำนานในสนามในยุค 2000 เจ้าหนูรูนี่ย์เปลี่ยนเป็นตำนานรูนี่ย์ ปัจจุบันเขาทำอะไรอยู่ และเส้นทางหลังแขวนสตั๊ดของเขาเดินไปในทิศทางไหน ไล่ไทม์ไลน์ไปเช็คกันหน่อย
ปัจจุบันของเจ้าหนูรูนี่ย์ ตอนนี้เป็นอย่างไร?
หลังจากแขวนสตั๊ด เวย์น รูนี่ย์ ไม่ได้หายไปจากวงการฟุตบอลแม้แต่น้อย เขาเข้าสู่เส้นทางการเป็นผู้จัดการทีมอย่างจริงจังและเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ จากการคุมทีมในลีกต่างประเทศจนถึงลีกบ้านเกิด
กับเส้นทางปัจจุบันขณะที่เต็มไปด้วยทั้งช่วงเวลาที่ต้องพิสูจน์ฝีมือและการตัดสินใจสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในฐานะโค้ช เช่น การปฏิเสธข้อเสนอที่มีมูลค่าสูงเพื่อรักษาหลักการและเป้าหมายของตัวเอง การเดินทางหลังเลิกเล่นของเขาจึงเป็นอีกหนึ่งบทที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าช่วงเวลาที่โลดแล่นในสนาม

การปฏิเสธข้อเสนอใหญ่ที่แฟนไม่เคยรู้
หลังแขวนสตั๊ด เขาได้รับข้อเสนอจากสโมสรใหญ่ในสหรัฐด้วยค่าเหนื่อยสูงกว่าที่อังกฤษเกือบเท่าตัว แต่รูนี่ย์ปฏิเสธเพราะต้องการเริ่มต้นเส้นทางโค้ชในบ้านเกิด เพื่อพิสูจน์ว่าความสำเร็จของเขาไม่ได้มาจากชื่อเสียงเก่า แต่จากฝีมือจริง
ไม่ว่าจะเป็นโอเวอร์เฮดคิกใส่ซิตี้ ประตูครึ่งสนามสุดเหนือชั้น หรือประตูสำคัญในยุโรป เวย์น รูนี่ย์ ได้ฝากผลงานไว้จนกลายเป็น ประตูตำนานแมนยู หลายต่อหลายครั้ง และปัจจุบันแม้บทบาทเปลี่ยนจากนักเตะเป็นโค้ช แต่เส้นทางของเขายังเต็มไปด้วยความท้าทาย บางทีในอนาคต เราอาจได้เห็น “โค้ชรูนี่ย์” สร้างตำนานบทใหม่ให้วงการฟุตบอล แล้วคุณล่ะ พร้อมจะเห็นประตูสวยจากฝีมือการคุมทีมของเขาหรือยัง?
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.