ประตูไหนของเวย์น รูนี่ย์ คือที่สุดในตำนานแมนยู?

เวย์น รูนี่ย์

Wayne

Rooney

เมื่อพูดถึง เวย์น รูนี่ย์ ภาพแรกที่แฟนบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนึกถึงคงหนีไม่พ้นประตูที่ทำให้ทั้งสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดระเบิดเสียงโห่ร้อง เขามีมากกว่าความดุดันในการยิงประตู  แต่มีสัญชาตญาณนักล่าและจังหวะตัดสินใจในเสี้ยววินาทีเพื่อโอกาสของทีม หลายประตูถูกจารึกว่าเป็น ประตูตำนานแมนยู ทั้งจากความสวยงามและความสำคัญต่อแมตช์ และแม้เวลาจะผ่านไป ภาพเหล่านั้นก็ยังติดตาแฟนบอลเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ที่สำคัญไปกว่านั้น ในบางจังหวะยังมีเกร็ดลับและเรื่องหลังกล้องที่แฟนทั่วไปแทบไม่เคยรู้ ทั้งหมดจะเป็นยังไง เราจะเล่าให้ฟัง

เวย์น รูนี่ย์

เบื้องหลังความงามของลูกยิงนี้ไม่ได้มีแค่การตีลังกายิงอย่างแม่นยำ แต่ยังรวมถึงความสำคัญของสถานการณ์ รูนี่ย์ยิงประตูนี้ในช่วงท้ายเกม ซึ่งไม่เพียงตัดสินผลการแข่งขัน แต่ยังย้ำสถานะความเป็นเบอร์หนึ่งของแมนยูในเมืองแมนเชสเตอร์ ท่ามกลางเสียงกดดันจากแฟนซิตี้ที่หวังเห็นทีมพลิกสถานการณ์ การตัดสินใจในเสี้ยววินาทีของเขาทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปทันที และกลายเป็นไฮไลต์ที่ถูกเปิดซ้ำจนถึงทุกวันนี้

  • เดิมทีรูนี่ย์ตั้งใจโหม่ง แต่เมื่อเห็นบอลลอยแรงเกิน เขาเลือกปรับท่ากลางอากาศเป็นโอเวอร์เฮดคิก
  • การตีลังกายิงในจังหวะนั้นไม่เพียงเสี่ยงต่อการพลาด แต่หากผิดจังหวะอาจเจ็บตัวหนัก
  • จังหวะสัมผัสบอลเป๊ะในระดับที่แม้กองหน้าชั้นนำยังทำได้ไม่บ่อย และนี่คือเหตุผลที่แฟนบอลจำได้ขึ้นใจ

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เพียงประตูเดียวที่แฟนบอลจดจำได้ เพราะตลอดการค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รูนี่ย์ลงสนามไป 559 นัด ยิง 253 ประตู กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร เขาทำประตูได้ในทุกรายการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ, ลีกคัพ, แชมเปียนส์ลีก และเวิลด์คลับคัพ สถิติเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าเขามีมากกว่าแค่การซัดสกอร์สวย ๆ แต่ยังมี “ลูกยิงสำคัญ” ณ วินาทีเปลี่ยนโลก เปลี่ยนผลการแข่งขันมานับไม่ถ้วน โดยเริ่มต้นอย่างน่าจดจำ กับประตูแรกในสีเสื้อยูไนเต็ดของรูนี่ย์คือ “แฮตทริก” ในเกมแชมเปียนส์ลีกกับเฟเนร์บาห์เช เมื่อปี 2004 จนถูกยกให้เป็นการเดบิวต์แบบที่โลกฟุตบอลลืมไม่ลงจริง ๆ

เวย์น รูนี่ย์

แม้โอเวอร์เฮดคิกจะถูกยกเป็นไฮไลต์สูงสุด แต่เส้นทางการยิงประตูของรูนี่ย์กับแมนยูเต็มไปด้วยจังหวะที่ตรึงตาแฟนบอลทั่วโลก เขายิงประตูสำคัญในเกมพรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ หรือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 

บางลูกมาพร้อมความสวยงามทางเทคนิค บางลูกเป็นการยิงในเกมที่มีแรงกดดันมหาศาล ทุกจังหวะสะท้อนทั้งฝีเท้า ความมั่นใจ และความกล้าของเขาในฐานะกองหน้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์สโมสร

เวย์น รูนี่ย์

หนึ่งในจังหวะที่ถูกพูดถึงมากคือประตูยิงครึ่งสนามใส่เวสต์แฮมในปี 2014 เรื่องเบื้องหลังคือ เพื่อนร่วมทีมแซวว่าเขาไม่มีวันกล้ายิงจากระยะไกลขนาดนั้น รูนี่ย์เก็บคำพูดนั้นไว้ในใจ และเมื่อผู้รักษาประตูออกมาตัดบอลนอกกรอบ เขาก็จัดการซัดจากเกือบครึ่งสนาม บอลลอยข้ามหัวเข้าประตูอย่างแม่นยำ

  1. ดับเบิลใส่เฟเนร์บาห์เช่ – UCL 2004/05
    เดบิวต์ในแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยแฮตทริกสุดโหด ช่วยแมนยูถล่ม 6-2 และประกาศศักดาในยุโรปตั้งแต่นัดแรก
  2. ปั่นโค้ง ๆ ใส่มิลาน – UCL 2006/07
    เกมรอบรองฯ เลกแรกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด รูนี่ย์ซัดโค้งนาทีท้าย ช่วยให้ทีมแซงชนะ 3-2 ก่อนจะพ่ายในเลกสอง
  3. ซัดบาร์ซ่าในรอบชิง – UCL 2010/11
    จังหวะทำชิ่งกับไรอัน กิ๊กส์แล้วปั่นเสียบมุม เป็นหนึ่งในไม่กี่ประตูที่บาร์เซโลนาชุดเป๊ปเสียในเกมใหญ่
  4. ลูกยิงไกลใส่ เรนเจอร์ส – UCL 2010/11 รอบแบ่งกลุ่ม
    รูนี่ย์คืนฟอร์มหลังปัญหานอกสนามด้วยจุดโทษเยือกเย็นที่พาทีมเข้ารอบน็อกเอาต์
  5. โหม่งสำคัญใส่เชลซี – UCL 2010/11 รอบ 8 ทีม
    เกมเลกสองที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด รูนี่ย์โหม่งปิดกล่องพาทีมผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกอย่างมั่นใจ

เด่นทั้งกับสโมสร แน่นอนว่าอีกหนึ่งตำนานด้านทีมชาติอังกฤษ เขาก็ฝากผลงานไว้ชัดเจน ลงสนามไปทั้งสิ้น 120 นัด ยิงได้ 53 ประตู ครองสถิติดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติอังกฤษอยู่นานหลายปี ก่อนจะถูก แฮร์รี่ เคน แซงในภายหลัง ตลอดช่วงปี 2003–2018 มีส่วนร่วมในทัวร์นาเมนต์ใหญ่แทบทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็น ยูโร 2004, 2012, 2016 และ ฟุตบอลโลก 2006, 2010, 2014 ที่น่าสนใจในบรรดาสกอร์มากมายนี้คือ ประตูแรกในนามทีมชาติของเขานั้นมาในศึกยูโร 2004 และทำให้รูนี่ย์กลายเป็นนักเตะอังกฤษที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูในทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ได้สำเร็จในวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น จรดแขวนสตั๊ดเลิกเล่นเมื่ออายุ 35 จากตำนานในสนามในยุค 2000 เจ้าหนูรูนี่ย์เปลี่ยนเป็นตำนานรูนี่ย์ ปัจจุบันเขาทำอะไรอยู่ และเส้นทางหลังแขวนสตั๊ดของเขาเดินไปในทิศทางไหน ไล่ไทม์ไลน์ไปเช็คกันหน่อย

เวย์น รูนี่ย์