
Ruud van
Nistelrooy
ยุค 2000 ยุคความรุ่งเรืองของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด บางชื่อที่แฟนบอลนึกถึงอาจไม่ใช่ ไรอัน กิ๊กส์, พอล สโคลส์ หรือ โรนัลโด้ แต่หนึ่งใน ดาวยิงแมนยู ที่เคยลากสถิติการยิงประตูให้พุ่งทะลุฟ้ากลับถูกไม่ค่อยถูกพูดถึงเท่า รุด ฟาน นิสเตลรอย กองหน้าดัตช์ที่มีสัญชาตญาณการจบสกอร์เฉียบคมที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
พี่ม้าคนนี้อาจไม่ได้เลี้ยงบอลหวือหวาเหมือน CR7 หรือมีภาพลักษณ์ร็อกสตาร์เหมือนเดวิด เบ็คแฮม ไม่ศิลปินจ๋าเหมือน คิง อิริก แต่ทุกครั้งที่บอลอยู่ในกรอบเขตโทษ ชื่อของนิสเตลรอยคืออาจเป็นคนสุดท้ายก่อนที่บอลจะถึงตาข่าย แล้วทำไมกองหน้าที่โหดขนาดนี้ถึงถูกบางคนมองว่า “ถูกลืม”? เราจะพาคุณไปดูกัน
รุด ฟาน นิสเตลรอย คือนักเตะประเภทไหนในสายตาแฟนแมนยู?
ไม่มีแฟนบอลแมนยูคนไหนเถียงว่า รุด คือเครื่องจักรทำประตูในยุคที่ทีมยังเต็มไปด้วยสตาร์ยืนเบียดกันเต็มห้องแต่งตัว จุดเด่นเรื่องการยืนตำแหน่งของเขาถูกยกให้เป็นศิลปะในแบบที่กองหน้าสมัยใหม่ที่ต้องใช้สัญชาตญาณเท่านั้น เรื่องครองบอล เลี้ยงโชว์ อาจไม่ใช่คำโฆษณาที่เหมาะกับเขา แต่ถ้าเรื่องจบสกอร์หน้าเส้นประตู ขอให้มา เขาพร้อมจบให้ไม่ว่าสถานการณ์จะของเกมจะกดดันแค่ไหน นี่คือสไตลการเล่นของเขา
จุดเด่นของสไตล์การเล่น
- จบสกอร์ได้ทุกแบบ ทั้งสองเท้าและลูกโหม่ง
- อ่านเกมขาด ยืนถูกที่ถูกเวลาเหมือนมีเรดาร์ส่วนตัว
- คุมอารมณ์ได้ดีแม้ในเกมใหญ่ กดดันคู่แข่งด้วยความนิ่ง
- คุณอาจไม่เห็นเขาในเกม แต่เมื่อกล้องจับภาพเขา คือโอกาสที่ทีมจะได้ประตู

เส้นทางจากดัตช์สู่โรงละครแห่งความฝัน
รุดเริ่มต้นจากเดน บอสช์ ทีมเล็ก ๆ ในเนเธอร์แลนด ก่อนย้ายไปฮีเรนวีนและพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น และที่นั่นเขากลายเป็นดาวซัลโวจนทำให้เป็นเป้าหมายของทีมใหญ่ จนที่สุดแมนยูคว้าตัวเขามาร่วมทีมในปี 2001 ด้วยค่าตัวราว 19 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติสโมสร ณ ตอนนั้น ที่น่าสนใจคือ ดีลนี้เกือบล่มเพราะบาดเจ็บหัวเข่าหนัก แต่เมื่อฟื้นตัว เขาก็ตอบแทนความไว้วางใจด้วยการยิงกระจายตั้งแต่ลงเล่นนัดแรกในพรีเมียร์ลีก
ทำไมดาวยิงแมนยูรายนี้ถึงถูกมองว่าถูกลืม?
ด้วยคุณสมบัติความคมที่ไม่เป็นสองรองใคร มันฟังดูไม่ยุติธรรมเลยถ้าคุณจะพูดถึงตำนานแมนยูโดยไม่มีเขา แต่ที่น่าเข้าใจได้คือ รุดเล่นในยุคที่แมนยูมีซูเปอร์สตาร์ล้นทีม กล้องและสื่อมักไปโฟกัสที่คนอย่างกิ๊กส์, สโคลส์ หรือโรนัลโด้ ไม่น่าสนใจว่าทำไมชื่อของพี่ม้ากลับถูกกลบ ด้วยสตาร์เหล่านี้ แม้เขาจะยิงได้ต่อเนื่องหลายฤดูกาล
ยุคทองที่ถูกกลบด้วยแสงของคนอื่น
ในพรีเมียร์ลีกความเด่นของ รุด อาจไม่ถูกบันทึกอย่างเจิดจ้าเท่าเพื่อนร่วมทีมคนอื่น แต่สิ่งที่ต้องยอมรับคือ เขาคือเครื่องจักรถล่มประตูที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดขาดไม่ได้ เขามีศิลปะการเคลื่อนที่หาช่องเพื่อโอกาสทำสกอร์ในกรอบเขตโทษ การอยู่ถูกที่ถูกเวลาอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญถ้าเป็นรุด และนั่นส่งให้เขายิงประตูได้อย่างสม่ำเสมอ และนี่คือเหตุผลที่เขาคือหนึ่งในกองหน้าที่มีค่าเฉลี่ยการทำประตูต่อเกมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
และสิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ รุดมีการซ้อมเฉพาะทางที่โค้ชและเพื่อนร่วมทีมยังทึ่ง เขามักอยู่ซ้อมต่อหลังจากคนอื่นเลิก เพื่อฝึกการยิงในจังหวะที่ยากต่อการควบคุม เช่น การยิงด้วยการสัมผัสบอลครั้งเดียวในพื้นที่แคบ หรือการเปลี่ยนทิศบอลภายในเสี้ยววินาที ยิ่งไปกว่านั้นเขายังศึกษาเทปวิดีโอคู่แข่งทุกนัดจนจำได้ว่ากองหลังแต่ละคนมีจุดอ่อนตรงไหน ความละเอียดและวินัยแบบนี้คือปัจจัยลับที่ทำให้เขาแม่นยำราวนักแม่นปืน และกลายเป็นฝันร้ายของผู้รักษาประตูโดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็น “หน้าปก” ของทุกแมตช์
จากไปแบบไม่อำลาอย่างสมบูรณ์
ในปีสุดท้าย ความสัมพันธ์กับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันมีรอยร้าวเล็ก ๆ ทำให้การย้ายไปเรอัล มาดริดในปี 2006 ค่อนข้างเงียบ ไม่มีแมตช์อำลายิ่งใหญ่ ไม่มีกระแสแฟนบอลร้องขอให้อยู่ สิ่งนี้ทำให้ภาพจำของแฟนบางส่วนค่อย ๆ จางไป

ผลงานของรุด ฟาน นิสเตลรอย ที่ใครก็ไม่ลืม
แม้จะถูกมองว่าถูกลืม แต่ตัวเลขไม่เคยโกหกเหมือน คำคมตำนานแมนยู และสถิติของเขากับแมนยูคือสิ่งที่แฟนบอลตัวจริงจำได้ดี ดาวซัลโว UCL 3 สมัย, ผู้เล่นยอดเยี่ยมทั้งจากแฟนบอลโหวตและนักเตะโหวต ดาวซัลโวบอลยูโร 2004 ตัวเลขแค่นี้เจ๋งแล้ว ยิ่งไปส่องสถิติที่ทำไว้ในการเล่นให้แมนยู คุณจะยิ่งว้าวขึ้นไปอีก
สถิติการทำประตูในพรีเมียร์ลีกกับแมนยู
- ลงเล่น 150 นัด ยิง 95 ประตู
- ฤดูกาล 2002–03 ยิง 25 ประตู คว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก
สถิติในทุกรายการกับแมนยู
- ลงเล่น 219 นัด ยิง 150 ประตู จ่าย 20 แอสซิสต์
- ทำประตูในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกให้แมนยู 35 ลูก กลายเป็นหนึ่งในดาวซัลโวสูงสุดของรายการในยุคนั้น
ความสำเร็จกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- แชมป์พรีเมียร์ลีก: 1 สมัย (2002–03)
- เอฟเอ คัพ: 1 สมัย
- ลีกคัพ: 1 สมัย
- คอมมิวนิตี้ชิลด์: 1 สมัย
- ดาวซัลโวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก: 3 สมัย (รวมช่วงเล่นกับแมนยูและมาดริด)

รุด ฟาน นิสเตลรอย ปัจจุบัน ทำอะไรอยู่ในวงการฟุตบอล?
นิสเตลรอย ยังคงเดินบนเส้นทางฟุตบอลในบทบาทอื่นหลังจากแขวนสตั๊ดในปี 2012 กับสโมสรมาลากาในวัย 35 ปี จากนั้นเขาหันมาทำงานโค้ชและสตาฟฟ์ในหลายบทบาท รวมถึงเคยรับหน้าที่คุมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดข้างสนามชั่วคราวในบางแมตช์ช่วงปี 2022 ระหว่างการเปลี่ยนถ่ายทีมสตาฟฟ์ ช่วงที่ เท็น ฮาก โดนไล่ออก จากนั้นเขาเซ็นสัญญานำทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่ธันวาคม 2024 กับภารกิจกู้ทีมให้อยู่รอด แต่ไม่สำเร็จ การเดินทางจบลงตอนมิถุนายน 2025 เมื่อสโมสรตกชั้นและแยกทางกันไปในท้ายที่สุด
อาจไม่ได้ถูกพูดถึงบ่อยเหมือนตำนานบางคน แต่ในหัวใจแฟนบอล รุด ฟาน นิสเตลรอย เขาคือ ดาวยิงแมนยู ที่มีประสิทธิภาพและความนิ่งจนคู่แข่งหวาดกลัว ปัจจุบันเขายังเดินต่อในเส้นทางฟุตบอล และชื่อของเขายังคงเป็นบทพิสูจน์ว่า ความเงียบสามารถทรงพลังได้ไม่แพ้ความหวือหวา แล้วคุณล่ะ…คิดว่าเขาคือกองหน้าที่ถูกลืมหรือกองหน้าที่แฟนแมนยูไม่เคยลืมกันแน่?
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.