เดวิด เบ็คแฮม ตำนานแมนยูทั้งในและนอกสนาม

เดวิด เบ็คแฮม

David

Beckham

เดวิด เบ็คแฮม เป็นมากกว่าแค่ชื่อนักฟุตบอลชื่อดัง มากกว่าแค่ตำนานแมนยู แต่เป็นแบรนด์ที่โลกทั้งใบจดจำทั้งชีวิตในและนอกสนาม หนึ่งในตำนานนักเตะอังกฤษ ที่ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลายเป็นสโมสรที่ดังไกลเกินขอบเขตโลกฟุตบอล แต่คือแฟชั่นไอคอน วงการธุรกิจ และอีกมากมาย

ความสำเร็จของเบ็คแฮมในสนามเป็นเหมือนรากฐาน แต่สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างคือการต่อยอดชื่อเสียงไปสู่วงการแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และธุรกิจ จนแม้ในวันนี้ เดวิด เบ็คแฮม ปัจจุบัน ก็ยังถูกยกให้เป็นบุคคลต้นแบบที่ใคร ๆ ก็พูดถึง ไม่ว่าจะในฐานะอดีตนักเตะ, เจ้าของสโมสร, หรือแฟชั่นไอคอนที่ไม่มีใครล้มได้ง่าย ๆ

เดวิด เบ็คแฮม

ในนามทีมชาติ เบ็คแฮมไม่เพียงลงเล่นมากถึง 115 นัด แต่ยังมีช่วงเวลาที่ทั้งหวานและขมผสมกัน เขาเคยถูกตราหน้าว่าเป็นคนผิดหลังโดนใบแดงในฟุตบอลโลก 1998 แต่ก็ใช้ความเจ็บปวดนั้นเป็นแรงผลักดันจนกลับมาพาทีมชาติอังกฤษคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลก 2002 ด้วยฟรีคิกในตำนานใส่ทีมชาติกรีซ

นาทีสุดท้ายของเกมคัดเลือกบอลโลก 2001 เบ็คแฮมก้าวขึ้นมารับหน้าที่ และซัดฟรีคิกเสียบเสาอย่างงดงาม ส่งอังกฤษไปบอลโลกทันที ภาพนี้ทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษในพริบตา

  1. สวมปลอกแขนกัปตันนานหลายปีและพาทีมผ่านยุคกดดัน
  2. ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน
  3. เป็นผู้นำทั้งในและนอกสนาม แม้จะถูกสื่อเล่นงานหนักเพียงใด

จากวันที่ถูกแฟนบอลเผาหุ่นในปี 1998 เขากลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่น อดทน และการแก้ตัวจากสิ่งที่ผิดพลาดด้วยผลงานในสนาม จนแฟนบอลทั้งชาติหันกลับมาเคารพเขาในที่สุดสมชื่อสมตำแหน่งความเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ

หากในสนามฟุตบอลเขาสร้างชื่อด้วยฝีเท้า นอกสนามเขาก็สร้างตำนานอีกแบบหนึ่ง โลกไม่ได้จำเบ็คแฮมเพราะลูกฟรีคิกเท่านั้น แต่ยังจำเพราะสไตล์ที่กลายเป็นเทรนด์แฟชั่นระดับโลกด้วย

เดวิด เบ็คแฮม

เบ็คแฮมคือผู้บุกเบิกยุคที่นักฟุตบอลสามารถก้าวเข้าสู่วงการแฟชั่นได้อย่างสง่างาม เขาเปลี่ยนภาพลักษณ์จากนักกีฬาที่หยาบกระด้าง ให้กลายเป็นสุภาพบุรุษผู้หล่อเหลา ที่มีสไตล์จนผู้ชายทั่วโลกอยากแต่งตาม

ตั้งแต่ทรงผมสกินเฮดที่ทำเอาชายหนุ่มอังกฤษและผู้ชายครึ่งโลกได้มั้ง พากันไปนั่งเก้าอี้แล้วบอกช่างตัดผม ขอทรง “เบ็คส์แฮม” ไปจนถึงทรงโมฮอว์กที่ตอนแรกโดนวิจารณ์ว่าแหวกแนวจนใคร ๆ ก็ขำ แต่สุดท้ายกลายเป็นแฟชั่นที่ร้านเจลแต่งผมขายดีจนสต๊อกแทบไม่ทัน นี่ยังไม่รวมภาพลักษณ์ในชุดสูทตามงานพรมแดง ที่เปลี่ยนจากนักเตะเหงื่อชุ่มเสื้อให้กลายเป็นสุภาพบุรุษผู้ดีอังกฤษตัวจริง ทุกการปรากฏตัวของเบ็คแฮมสัญญาณว่า “แฟชั่นชายไม่จำเป็นต้องเดินตามใคร” แต่คือการให้ทั้งโลกต้องเดินตามรอยเขาเพียงผู้เดียว

  • แบรนด์ดังระดับโลก เช่น Adidas, Armani และ H&M ต่างแย่งกันใช้เขาเป็นพรีเซนเตอร์
  • เขาทำให้ผู้ชายทั่วโลกหันมาสนใจการแต่งตัวและ Grooming มากขึ้น
  • นักฟุตบอลหลายคนเริ่มหันมาดูแลภาพลักษณ์ตามแบบเบ็คแฮม
เดวิด เบ็คแฮม

ทรงผมและเสื้อผ้าของเขากลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งอยู่เสมอ โดยเฉพาะทรงโมฮอว์กที่ครั้งหนึ่งทำให้ยอดขายเจลแต่งผมในอังกฤษเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

แต่ตำนานของเบ็คแฮมไม่หยุดอยู่แค่สนามและแคตวอล์ก เพราะแม้วันนี้เขาจะเลิกเล่นฟุตบอลแล้ว โลกก็ยังถามหาบทบาทของเขาในปัจจุบัน และนี่คือสิ่งที่ทำให้ชื่อของเขายังคงเป็นข่าวอยู่เสมอ

เดวิด เบ็คแฮม