
ryan
giggs
ภายใต้นิยามของลีกฟุตบอลอันดับ 1 ของโลกพ่วงกับชื่อเสียงสร้างมาอย่างยาวนาน ชื่อของ ไรอัน กิ๊กส์ คือสัญลักษณ์ขอคำว่า “จงรักภักดี ทุ่มเท” พร้อมด้วยความสามารถในตำแหน่งที่ร่ายมนต์ทุกจังหวะได้ราวกับพ่อมด ตลอดเวลากว่า 24 ปีในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด เขาสร้าง โมเมนต์ตำนานแมนยู มากมายนับไม่ถ้วน
ทั้งในฐานะปีกความเร็วจัดที่ฉีกแนวรับขาด และในฐานะผู้นำที่แบกรับทีมในยามคับขัน เราจะพาคุณย้อนรอย 4 โมเมนต์สำคัญที่แฟนบอลจำไม่ลืม แต่ละเหตุการณ์ล้วนเป็นเสาหลักที่ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของชายผู้นี้ มีอะไรบ้างที่แฟนผีหลายคนอาจยังไม่รู้ ตามไปดูกัน
ไรอัน กิ๊กส์ เปิดตัวกับแมนยูอย่างไรจนแฟนบอลจับตาตั้งแต่วินาทีแรก?
หนุ่มน้อยจากเวลส์กับวันที่ดีบิวต์นัดแรกกับทีมระดับยูไนเต็ด อาจเป็นเรื่องหนักอึ้งของเด็กวัย 17 แต่เขากลับแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและเทคนิคที่แตกต่างจากนักเตะวัยเดียวกัน เป็นเกมพบกับเอฟเวอร์ตันปี 1991 อาจไม่ใช่แมตช์ที่ยิงประตูสวย ๆ แต่ลีลาการเลี้ยงบอลที่เฉียบคมและการกล้าดวลตัวต่อตัวนี่แหละที่ทำให้แฟนบอลรู้ทันทีว่า “เด็กคนนี้ไม่ธรรมดา” และเป็นที่มาของฉายาในตำนานที่ว่า “ปีกพ่อมด” ภายใต้สีเสื้อยูไนเต็ด
สัญญาณแรกก่อนนำมาสู่ตำนาน
51 นัด คือตัวเลขอันน่าเหลือเชื่อของเด็กวัย 18 ในฤดูกาลแรกที่ ไรอัน กิ๊กส์ เข้าสู่ทีมชุดใหญ่ของแมนฯ ยูไนเต็ด(1991–92) รวมทุกรายการ เขาทำได้ 7 ประตู (ในลีก 38 นัด ยิง 4 ประตู, และอีก 3 ประตูจากบอลถ้วย) เป็นเหตุผลที่ไร้การโต้แย้งใด ๆ ว่าทำไมเขาถึงได้รับรางวัล PFA Young Player of the Year ในปีแรกที่ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของแมนยูฯ

ประตูสุดคลาสสิกปี F.A. Cup ปี 1999 กับจุดสูงสุดในชีวิตค้าแข้ง
โมเมนต์อันน่าจดจำจนปูทางให้เขาเป็นตำนานแมนยู แฟนบอลแทบทุกคนจะนึกถึงประตูโทนใส่อาร์เซนอลในรอบรองฯ เอฟเอคัพปี 1999 กิ๊กส์ลากบอลจากครึ่งสนาม หลบผู้เล่น 4 คน ก่อนซัดด้วยซ้ายเต็มแรงตุงตาข่าย และภาพที่เขาถอดเสื้อวิ่งฉลองคือหนึ่งในภาพจำตลอดกาลของวงการฟุตบอลอังกฤษ
หลังจบเกม ไรอัน กิ๊กส์ ให้สัมภาษณ์กับ Sky Sports ว่า เขาเพิ่งลงมาเป็นตัวสำรองและกำลังเล่นได้แย่ จนบอกตัวเองว่า “ครั้งหน้าที่ได้บอล ลองเลี้ยงดู” และเมื่อโอกาสมาถึง ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยสัญชาตญาณล้วน ๆ ขนาด พอล สโคลส์ จะตะโกนขอบอล แต่เขาก็ไม่ได้เห็นและตัดสินใจยิงเองทันที
ส่วนในด้านของผู้จัดการทีมอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังยอมรับอีกด้วยว่า การส่งกิ๊กส์ลงมาเป็นตัวสำรองคือการตัดสินใจสำคัญ เขาบอกว่า “ตอนเห็นกิ๊กส์ได้บอล ผมตะโกนให้เขาจ่าย…แต่เขาไม่ทำ” แผนเดิมของทีมคือการครองบอลและถ่วงเวลา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันว้าวกว่าที่หวัง ปีพ่อมดเปลี่ยนมันให้กลายเป็นประตูพลิกเกม พาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ในท้ายที่สุด
สถิติของ ไรอัน กิ๊กส์ ตลอดการค้าแข้ง
ตลอดเส้นทาง 22 ฤดูกาลกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไรอัน กิ๊กส์ คือตัวแทนของความจงรักภักดีและความสำเร็จให้กับยูไนเต็ด เขาลงสนาม 632 นัดในพรีเมียร์ลีก ทำได้ 109 ประตู และ 163 แอสซิสต์ ขณะที่สถิติรวมทุกรายการอยู่ที่กว่า 900 นัด แซง เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ถึงขนาดเคยพูดชมอย่างจริงใจว่า เขาหวังให้กิ๊กส์ทำลายสถิติการลงเล่นของตนเองในสโมสรได้ เพราะมันแสดงถึงความเคารพและการส่งต่อให้กับนักเตะรุ่นใหม่ ๆ ชาร์ลตันกล่าวว่า “หากมีใครสมควรทำลายสถิตินี้ก็หวังว่าจะเป็นนักเตะแบบกิ๊กส์” และนี่เกียรติยศส่วนตัวทั้งหมดที่กิ๊กส์ทำได้ตลอดการค้าแข้ง
รางวัลกับทีม:
- พรีเมียร์ลีก 13 สมัย
- เอฟเอคัพ 4 สมัย
- ลีกคัพ 4 สมัย
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2 สมัย
- ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ 1 สมัย
รางวัลส่วนตัว:
- PFA Young Player of the Year 2 สมัย (1992, 1993)
- PFA Team of the Century (1997–2007)
- BBC Sports Personality of the Year 2009
- รางวัลพิเศษจาก PFA ในฐานะตำนาน (2007)
สรุปรายได้ตลอดการค้าแข้งของ ไรอัน กิ๊กส์
- ช่วงเป็นเยาวชน/นักเตะฝึกหัด กิ๊กส์เล่าว่าเคย รับราว £29.50–£30 ต่อสัปดาห์ (ค่าแรงแบบ YTS) ก่อนขึ้นสัญญาอาชีพเต็มตัว
- สัญญาใหม่ปี 2001 รายงานระบุว่าได้ ประมาณ £50,000 ต่อสัปดาห์ (ราว £2.6 ล้าน/ปี)
- ช่วงปี 2004–2005 มีข่าวต่อสัญญาที่ติดขัด เพราะสโมสรยื่น 1 ปี แต่กิ๊กส์ต้องการ 2 ปี และบทความข่าวระบุฐานเดิมว่าอยู่ที่ ราว £70,000 ต่อสัปดาห์ ก่อนสุดท้ายสโมสร “ยอมยืดให้ 2 ปี” ในเดือนพฤษภาคม 2005
- จากนั้น กิ๊กส์เซ็นต่อปีต่อปีหลายครั้ง (2009, 2011, 2012, 2013) แต่สโมสร ไม่ได้เปิดตัวเลขค่าเหนื่อยอย่างเป็นทางการ มีเพียงข่าวการต่อสัญญา 1 ปีต่อเนื่องเท่านั้น

ทำไมช่วงปลายอาชีพของ ไรอัน กิ๊กส์ ถึงยิ่งตอกย้ำสถานะตำนานแมนยู?
ช่วงปลายอาชีพ กิ๊กส์เปลี่ยนจากปีกความเร็วจัดมาเป็นกองกลางตัวคุมจังหวะ ใช้สมองและประสบการณ์มากกว่าพละกำลัง เขากลายเป็นผู้นำในห้องแต่งตัว คอยประคองนักเตะรุ่นใหม่และรักษามาตรฐานความเป็นมืออาชีพของทีมไว้
บทบาทใหม่ช่วงท้ายการเป็นนักฟุตบอล
ไรอัน กิ๊กส์ หน้าที่ตอนนั้นหลัก ๆ ไม่ใช่แค่ในสนาม แต่แสดงถึงความเป็นผู้นำทั้งในและนอกสนาม และพร้อมเป็นกระดูกสันหลังในวันที่ทีมไร้คนคลุมหางเสือ หลังจากเดวิด มอยส์ถูกปลดในปี 2014 กิ๊กส์ยังถูกแต่งตั้งให้ทำหน้าที่โค้ชชั่วคราว คุมทีมลงเล่น 4 นัดสุดท้ายของฤดูกาล ก่อนจะผันตัวไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมในฤดูกาลต่อมา
ตลอดเส้นทางกว่า 2 ทศวรรษ ไรอัน กิ๊กส์ สร้าง โมเมนต์ตำนานแมนยู ที่เต็มไปด้วยความทรงจำและคุณค่าทางจิตใจต่อแฟนบอลทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวอันน่าจับตา ประตูประวัติศาสตร์ในเอฟเอคัพ 1999 การพลิกเกมในแมตช์สำคัญ หรือการเป็นผู้นำในช่วงปลายอาชีพ ทุกเหตุการณ์คือบทพิสูจน์ว่าตำนานไม่ได้เกิดจากพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความมุ่งมั่นและการทุ่มเทอย่างไม่มีข้อแม้
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.